รวบตึงสารพัดปัญหาในคอลเซ็นเตอร์ Protollcall

รวบตึงสารพัดปัญหาในคอลเซ็นเตอร์ และแนวทางการแก้ไข

เดือนสุดท้ายของปี 2024 มาถึงแล้ว หลายคนเตรียมตัวหยุดพักผ่อน ไปท่องเที่ยว แต่หลายคนยังต้องรีบจัดการงานที่คั่งค้างก่อนสิ้นปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาผู้บริหารคอลเซ็นเตอร์ที่ต้องเตรียมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆที่จะเข้ามา ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและความคาดหวังของลูกค้าที่สูงขึ้น ผลสำรวจและสถิติจากหลายแหล่งข้อมูลตลอดปี 2024 ชี้ให้เห็นถึงประเด็นหลัก ๆ ที่ผู้บริหารคอลเซ็นเตอร์ต้องรับมือ และแนวทางในการปรับตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ ดังนี้

1.อัตราการลาออกของพนักงานสูงและความเหนื่อยล้า (Turnover & Burnout)

การลาออกของพนักงานคอลเซ็นเตอร์ในปัจจุบัน มีอัตราเฉลี่ยที่สูงถึง 30% – 45% ต่อปี ส่งผลให้ต้องมีการสรรหาและฝึกอบรมพนักงานใหม่อยู่เสมอ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูง
แนวทางแก้ไข:

  • สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สนับสนุนสุขภาพจิตและลดความเครียด เช่น การจัดโซนพักผ่อน หรือจัดโปรแกรมสนับสนุนพนักงาน
  • ให้รางวัลและยกย่องผลงานของพนักงานที่มีประสิทธิภาพดี ช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจในการทำงาน

2.การขาดงานและภาระงานหนักของพนักงาน (Absenteeism)

เมื่ออัตราการขาดงานของพนักงานในคอลเซ็นเตอร์สูงขึ้น จะส่งผลกระทบต่อการให้บริการ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องรับมือกับปริมาณสายที่สูง
แนวทางแก้ไข:

  • ใช้ระบบการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น การอนุญาตให้ทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) หรือทำงานแบบไฮบริด
  • จัดโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น โปรแกรมฟิตเนส ตรวจสุขภาพประจำปี หรือการให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยา

3.การรักษาความพึงพอใจของลูกค้า (Customer Satisfaction)

ลูกค้ามีความคาดหวังเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2024  โดยเฉพาะความต้องการให้บริการที่รวดเร็วและแม่นยำ มีข้อมูลสำรวจว่าลูกค้าประมาณ 50% เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจซื้อ หากประสบปัญหาจากได้รับบริการที่ไม่ดี
แนวทางแก้ไข:

  • ฝึกอบรมพนักงานด้านการสื่อสารและการตอบสนองที่มีคุณภาพ ช่วยให้พนักงานสามารถเข้าใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดี
  • ใช้ระบบ Self Service และ Chatbot เพื่อช่วยตอบคำถามพื้นฐานและให้บริการที่ลูกค้าสามารถทำเองได้ ช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องรอสายนาน

4. การปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรการการกำกับดูแล (Regulatory Compliance)

ในปัจจุบัน มีกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลออกมา เช่น GDPR หรือ PDPA รวมถึงกฎหมายด้าน Cyber Security ต่างๆ การปฏิบัติตามกฎหมายเหล่านั้น เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้บริหารคอลเซ็นเตอร์ต้องให้ความใส่ใจ
แนวทางแก้ไข:

  • ใช้ระบบตรวจสอบและการรายงานอัตโนมัติเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับกฎหมาย
  • ให้การฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจและปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง

5.การปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีใหม่ (Technological Adaptation)

เทคโนโลยี AI และ Call Center Automation เข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น ผู้บริหารจะต้องเข้าใจ ให้ความสำคัญและสามารถบูรณาการเทคโนโลยีเหล่านี้ ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพร่วมกัน
แนวทางแก้ไข:

  • ลงทุนในระบบ AI และเทคโนโลยีอัตโนมัติที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัว เช่น ระบบการจัดการสายที่อัตโนมัติ และระบบการวิเคราะห์ข้อมูลการให้บริการ
  • ฝึกอบรมพนักงานให้สามารถใช้และปรับตัวเข้ากับเครื่องมือหรือซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ ได้อย่างมั่นใจ

6.การควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน (Cost Management)

ผู้บริหารในคอลเซ็นเตอร์ประมาณ 40% ให้ความสำคัญกับการจัดการต้นทุนการดำเนินงาน ทั้งยังระบุอีกว่าการลดต้นทุนเป็นความท้าทายที่ต้องรับมือ
แนวทางแก้ไข:

  • ใช้ซอฟต์แวร์ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดการใช้ทรัพยากรในงานที่ซ้ำซ้อน
  • พิจารณาจ้าง Outsourcing สำหรับงานที่ไม่ซับซ้อนเพื่อลดค่าใช้จ่าย

สรุป

การจัดการคอลเซ็นเตอร์ในปี 2024 ผู้บริหารต้องเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลาย ตั้งแต่การรักษาพนักงาน การสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด 

ผู้บริหารสามารถนำประสบการณ์ที่ได้จากปีนี้ ไปใช้วางแผนรับมือความท้าทายใหม่ๆในปีหน้า การปรับปรุงและปรับใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับองค์กร สามารถช่วยให้คอลเซ็นเตอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจได้