Personal Data Protection Notice

Home Personal Data Protection Notice

ประกาศแจ้งการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(Personal Data Protection Notice)

สำหรับลูกค้า คู่ค้า ผู้สมัครงานและผู้ปฏิบัติงานของ บริษัท โปรโทลคอล แอดวานซ์เซอร์วิส จำกัด

บริษัท โปรโทลคอล แอดวานซ์เซอร์วิส จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “โปรโทลคอล”) ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณและเคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกค้า คู่ค้า ผู้สมัครงานและผู้ปฏิบัติงาน (ซึ่งรวมเรียกว่า “ท่าน”)  โปรโทลคอล จึงให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของ ลูกค้า คู่ค้า ผู้สมัครงานและผู้ปฏิบัติงานของโปรโทลคอล เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่โปรโทลคอลได้รับ จะถูกนำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์และเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โปรโทลคอลจึงได้กำหนดประกาศแจ้งการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“ประกาศ”) ฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิต่างๆ ของท่านตามกฎหมาย

1. ประกาศฉบับนี้ใช้กับใครบ้าง

1.1 ลูกค้า หมายถึง บุคคลที่จะซื้อหรือซื้อสินค้า และ/หรือรับบริการจากโปรโทลคอล หรือบุคคลอื่นที่ติดต่อสอบถามข้อมูลสินค้า และ/หรือบริการของโปรโทลคอล บุคคลที่รับทราบข้อมูลสินค้า และ/หรือบริการผ่านสื่อต่าง ๆ และบุคคลที่ได้รับการโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสินค้า และ/หรือบริการของโปรโทลคอล และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้อง หรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลที่เป็นลูกค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่าง โปรโทลคอล กับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น รวมทั้งบุคคลที่นิติบุคคลนั้นได้ให้ข้อมูลไว้แก่โปรโทลคอล ด้วย

1.2 คู่ค้า หมายถึง บุคคลที่จะขายหรือขายสินค้า และ/หรือบริการให้แก่โปรโทลคอล เช่น คู่สัญญา ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา เป็นต้น และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลซึ่งเป็นคู่ค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่างโปรโทลคอล กับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้ส่งสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น รวมทั้งบุคคลที่นิติบุคคลนั้นได้ให้ข้อมูลไว้แก่โปรโทลคอล ด้วย

1.3 ผู้สมัครงานและผู้ปฏิบัติงานของโปรโทลคอล ไม่ว่าท่านจะเป็น ผู้สมัครงาน ผู้ปฏิบัติงาน ของโปรโทลคอล รวมไปจนถึงบุคคลในครอบครัว ผู้รับผลประโยชน์จากสวัสดิการต่างๆ ผู้ติดต่อฉุกเฉิน บุคคลที่ท่านอ้างอิงผู้รับผลประโยชน์จากสวัสดิการต่างๆ ผู้ติดต่อฉุกเฉิน บุคคลที่ท่านอ้างอิงทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งโปรโทลคอลได้ทำการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการสมัครงาน การฝึกงาน หรือการจ้างงานของท่าน

2. ข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้างที่โปรโทลคอลเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผย

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม (แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม) ได้แก่

2.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่โปรโทลคอลโดยตรง จากช่องทางการติดต่อต่างๆ เช่น เว็บไซต์ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์ การประชุม สื่อสังคมออนไลน์ ไปรษณีย์ ข้อมูลจากใบสมัครงาน การสัมภาษณ์ การฝึกงาน หรือการจ้างงาน หรือ

2.1.2 ข้อมูลบนเว็บไซต์ของโปรโทลคอล ที่ได้รับผ่านคุกกี้หรือเทคโนโลยีอื่นใดที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน (รวมเรียกว่า “คุกกี้”)

2.1.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่โปรโทลคอลได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากท่านโดยตรง เช่น พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทนายหน้ารับสมัครงาน ที่ปรึกษา สมาคม และแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ

2.1.4 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่โปรโทลคอลเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผย เช่น

ประเภทของข้อมูล

ตัวอย่างข้อมูลที่โปรโทลคอลเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผย

ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data)

เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วันเดือนปี เกิด เพศ อายุ สัญชาติ ลายมือชื่อ ภาพถ่าย เป็นต้น

ข้อมูลติดต่อ (Contact Data)

เช่น ที่อยู่ สำเนาทะเบียนบ้าน เบอร์โทรศัพท์ เบอร์โทรสาร อีเมล ตำแหน่งที่อยู่ (Geolocation) ผู้ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บัญชีการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ LINE ID เป็นต้น

ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) 

เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร เงินเดือน ค่าจ้าง ผลตอบแทนอื่น การขึ้นเงินเดือน โบนัสประจำปี

ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ข้อมูลการเอาประกันภัยกลุ่ม ข้อมูลการใช้สิทธิสวัสดิการอื่น ๆ ข้อมูลการเสียภาษี เป็นต้น

ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการศึกษาและทำงาน

เช่น ประวัติการศึกษา วุฒิการศึกษา ผลการศึกษา สถานศึกษา ประวัติการทำงาน การฝึกอบรม ความเชี่ยวชาญ และผลงานต่าง ๆ เป็นต้น

ข้อมูลทางเทคนิค อุปกรณ์หรือเครื่องมือ

เช่น หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP address หรือ MAC address) หมายเลขประจำเครื่องโทรศัพท์มือถือ (International Mobile Equipment Identity: IMEI) คุกกี้ (Cookies ID) ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Audit Log) การใช้งานเว็บไซต์

ข้อมูลที่จำเป็นอื่น ๆ

เช่น สถานภาพการสมรส สถานภาพทางการสมรส สถานภาพครอบครัว จำนวนสมาชิกในครอบครัวและจำนวนบุตร ข้อมูลความสัมพันธ์ (เช่นบิดามารดา ผู้รับผลประโยชน์จากสวัสดิการต่างๆ ผู้ติดต่อฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง) เป็นต้น

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน (Sensitive Personal Data)

       ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ โดยโปรโทลคอลไม่มีเจตนาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากท่าน

       หากแต่ในบางกรณี โปรโทลคอลอาจจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากท่านเพื่อพิจารณาการจ้างงาน การดำเนินการตามสัญญาที่โปรโทลคอลมีอยู่กับท่าน หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนที่โปรโทลคอลเก็บรวบรวม ได้แก่ ศาสนา ประวัติอาชญากรรม (เช่น ผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรที่ได้รับมาจากหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจ) ข้อมูลสุขภาพ (เช่น ผลการตรวจสุขภาพ ใบรับรองแพทย์ ประวัติการเข้ารับการฉีดวัคซีน) ข้อมูลชีวภาพ (Biometric) (เช่น ภาพถ่ายจำลองใบหน้า ลายนิ้วมือ) ทั้งนี้ โปรโทลคอลจะเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนต่อเมื่อโปรโทลคอลได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่โปรโทลคอลมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต โดยจะดำเนินการเป็นคราวๆ ไปเมื่อต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากท่าน

(ต่อไปในประกาศฉบับนี้หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจง จะเรียกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนข้างต้น รวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”)

2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามอื่นใด

       หากท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามอื่นใด เช่น ข้อมูลสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลผู้รับผลประโยชน์จากสวัสดิการต่างๆ ข้อมูลผู้ติดต่อฉุกเฉิน และบุคคลที่ท่านอ้างอิง เป็นต้น ขอให้ท่านโปรดแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบเกี่ยวกับรายละเอียดตามประกาศฉบับนี้ และขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้นหากจำเป็น หรือกำหนดฐานทางกฎหมายอื่นเพื่อให้แน่ใจว่าโปรโทลคอลสามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามเหล่านี้ได้

3. โปรโทลคอลเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ใดบ้าง

โปรโทลคอลจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายของโปรโทลคอล ทั้งนี้ ฐานทางกฎหมายที่โปรโทลคอลอาจใช้อ้างอิงประกอบการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีดังต่อไปนี้ (1) ฐานสัญญา; (2) ฐานความยินยอม; (3) ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต; (4) ฐานปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย; (5) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย; และ / หรือฐานทางกฎหมายอื่นที่โปรโทลคอลสามารถอาศัยได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ วัตถุประสงค์บางประเภทดังต่อไปนี้อาจใช้บังคับกับท่าน โปรดพิจารณาลักษณะวัตถุประสงค์ตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านและโปรโทลคอล

3.1 กรณีที่ท่านเป็นลูกค้า โปรโทลคอลอาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังนี้

ข้อที่

วัตถุประสงค์

ฐานทางกฎหมาย

(1)

เพื่อการพิจารณาอนุมัติคำขอซื้อสินค้าและหรือใช้บริการ รวมถึงกระบวนการตรวจสอบยืนยันตัวตน การตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจ การพิจารณาความเสี่ยงในการเข้าทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินการตามกระบวนการภายในต่าง ๆ ของ โปรโทลคอล เพื่อการทำสัญญา การปฏิบัติงานตามสัญญา การส่งสินค้า การให้บริการ รวมไปถึงการติดต่อประสานงาน การเรียกเก็บค่าใช้จ่าย การจัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

การปฏิบัติตามสัญญา

(Contractual Basis) 

ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

(Legitimate Interests)

(2)

เพื่อประโยชน์ในการประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาสินค้า การให้บริการ และรายการส่งเสริมการขายต่าง ๆ ของ โปรโทลคอล รวมถึงเพื่อสำรวจความพึงพอใจเกี่ยวกับสินค้าและบริการของ โปรโทลคอล เพื่อให้เหมาะสมและตรงตามความต้องการของท่าน

ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

(Legitimate Interests)

(3)

เพื่อใช้เป็นข้อมูลและเอกสารประกอบการดำเนินงานใด ๆ กับธนาคาร สถาบันการเงิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร และหน่วยงานภายนอกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

(Legitimate Interests)

3.2 กรณีที่ท่านเป็นคู่ค้า โปรโทลคอล อาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

ข้อที่

วัตุประสงค์

ฐานทางกฎหมาย

(1)

เพื่อการดำเนินการตามกระบวนการต่าง ๆ ก่อนเข้าทำสัญญา เช่น 

  • การพิจารณาคุณสมบัติของคู่ค้า 
  • การเชิญเสนอราคา การเสนอราคา การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจในการยื่นเอกสารเสนอราคาของผู้เสนอราคา และการพิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอราคา รวมถึงกรณีที่ผู้เสนอเป็นผู้ให้บริการ ที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาบัญชี ที่ปรึกษาธุรกิจ และที่ปรึกษาภาษี ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษาทางการเงิน สถาบันการเงิน ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบบัญชีและการเงิน

การปฏิบัติตามสัญญา

(Contractual Basis)

 

ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

(Legitimate Interests)

(2)

เพื่อความจำเป็นในการทำธุรกรรมระหว่างคู่ค้ากับ โปรโทลคอล เช่น

  • การตรวจสอบยืนยันตัวตน การตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจ รวมทั้งเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง
  • การดำเนินการตามกฎ ระเบียบ และกระบวนการภายในต่าง ๆ ของ โปรโทลคอล
  • การพิจารณา จัดทำ และลงนามในสัญญาทางการค้า 
  • การปฏิบัติตามสัญญาว่าจ้าง สัญญาบริการ สัญญาทางการค้าอื่น ๆ และความตกลงหรือความร่วมมือที่เกี่ยวข้อง ระหว่าง โปรโทลคอล และคู่สัญญา รวมถึงกระบวนการขอและพิจารณาเอกสารที่เกี่ยวข้องอันอาจมีข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการบริษัทซึ่งเป็นบุคคลภายนอกหรือผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ 
  • การตรวจรับงานตามสัญญาระหว่าง โปรโทลคอล และคู่ค้า การออกหนังสือรับรองผลงาน จนแล้วเสร็จ

การปฏิบัติตามสัญญา

(Contractual Basis)

 

ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

(Legitimate Interests)

(3)

เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมระหว่างคู่ค้ากับ โปรโทลคอล เช่น กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร

การปฏิบัติตามกฎหมาย

(Legal Obligation)

3.3 กรณีที่ท่านเป็นผู้สมัครงานหรือพนักงานของโปรโทลคอล โปรโทลคอล อาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

ข้อที่

วัตุประสงค์

ฐานทางกฎหมาย

(1)

เก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน ที่โปรโทลคอลไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่น นอกเหนือจากการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งได้ วัตถุประสงค์ดังกล่าว ได้แก่

  • ข้อมูลศาสนา เพื่อพิจารณาอนุมัติลาอุปสมบท / ลาพิธีฮัจญ์ / จัดเตรียมอาหาร / ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา กรณีเสียชีวิต เป็นต้น
  • ข้อมูลชีวภาพ เพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคล การลงเวลาทำงาน เข้าประชุม อบรมสัมมนา เข้าร่วมกิจกรรม เข้าร่วมงานอีเว้นท์ หรือเข้าอาคาร
  • ข้อมูลประวัติสุขภาพ เพื่อพิจารณารับสมัครคัดเลือกเข้าทำงาน การให้สิทธิสวัสดิการต่างๆ (เช่น การเบิกค่ารักษาพยาบาล การเบิกจ่ายประกัน การให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรค หรือการส่งตัวไปรักษาโรค)
  • ประวัติอาชญากรรม เพื่อพิจารณารับสมัครคัดเลือกเข้าทำงาน และการตรวจสอบคุณสมบัติ

การอาศัยความยินยอม (Consent Basis)

(2)

การพิจารณาคัดเลือก และการจ้างงาน เช่น 

  • การสรรหาพนักงาน การตรวจสอบและยืนยันตัวตน การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและเอกสาร การดำเนินกระบวนการคัดเลือกผู้สมัครงาน (เช่น การพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัครงาน การสัมภาษณ์ การสอบข้อเขียน) 
  • การติดต่อสื่อสาร การเข้าทำสัญญา และ / หรือนิติกรรมที่เกี่ยวข้อง การดำเนินกระบวนการรับเข้าทำงาน (เช่น การทำบัตรพนักงาน การทำทะเบียนพนักงาน การจัดทำข้อมูลพนักงาน การส่งมอบอุปกรณ์สำหรับการทำงาน) การปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอ / ใบสมัครของท่านก่อนเข้าทำสัญญา

การปฏิบัติตามสัญญา

(Contractual Basis)

(3)

การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล เช่น การจัดทำฐานข้อมูลพนักงานและประวัติพนักงาน เช่น

  • การอำนวยความสะดวกในการทำงานที่จ้าง การจัดประชุมที่เกี่ยวข้อง การใช้ข้อมูลของท่านในการทำธุรกรรมของโปรโทลคอลและประกอบการทำหน้าที่ของกรรมการของโปรโทลคอล 
  • เพื่อประกอบการประสานงานกับผู้ให้บริการภายนอก พันธมิตรทางธุรกิจ หรือหน่วยงานภาครัฐ (เช่น การนำส่งข้อมูลพนักงานให้สถานพยาบาล หรือหน่วยงานภาครัฐเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีน) 
  • การลงเวลาทำงาน การลางาน การแต่งตั้ง การโยกย้าย การเปลี่ยนตำแหน่ง การปรับโครงสร้างองค์กร การประเมินและบริหารผลการปฏิบัติงาน 

การปฏิบัติตามสัญญา

(Contractual Basis)


ประโยชน์สำคัญต่อชีวิต (Vital Interest)

(4)

การจ่ายค่าจ้างหรือผลตอบแทนอื่น เช่น 

  • การจัดให้มีสวัสดิการหรือประโยชน์อื่นใด การพิจารณา การให้ และการจ่ายเงินเดือน สิทธิสวัสดิการพนักงาน (เช่น การเบิกจ่ายเงินสำรองจ่าย การทำประกันกลุ่ม การทำประกันการเดินทางโดยเครื่องบิน)

การปฏิบัติตามสัญญา

(Contractual Basis)

(5)

การพัฒนาทักษะความสามารถ เช่น 

  • การจัดอบรมและพัฒนาบุคลากร ส่งเสริมการเรียนรู้พนักงาน

การปฏิบัติตามสัญญา

(Contractual Basis)

(6)

การดำเนินงานอื่น ๆ ของโปรโทลคอล เช่น 

  • การมอบหมายงานให้ผู้อื่นทำแทนโปรโทลคอล การตรวจสอบข้อมูลการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหรือตรวจสอบพฤติกรรมการปฏิบัติงาน ภัยคุกคามทางไซเบอร์ การทำผิดกฎหมายต่างๆ 
  • การบันทึกเสียง การบันทึกภาพนิ่ง การบันทึกภาพเคลื่อนไหว CCTV 
  • การดำเนินการใดที่เกี่ยวข้องกับการกำกับตรวจสอบ การป้องกันการทุจริต การสอบสวนทางวินัย การจัดการข้อร้องเรียน การดำเนินการทางวินัย และ / หรือ การเลิกจ้าง การบริหารความเสี่ยงองค์กร การกำกับตรวจสอบ และการจัดการเหตุการทุจริต การป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการกระทำการทุจริต การบริหารจัดการภายในองค์กร
  • การวิเคราะห์ วิจัย ทำสถิติและจัดทำรายงานสำหรับการใช้ภายในโปรโทลคอลและการนำส่งหน่วยงานภายนอก การทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (anonymous data) 
  • การดำเนินคดีหรือกระบวนการทางกฎหมายอื่น ๆ การดำเนินการตามที่กฎหมาย และ / หรือประกาศที่โปรโทลคอลกำหนด และการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวกับการเลิกจ้าง

การปฏิบัติตามสัญญา

(Contractual Basis)


ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

(Legitimate Interests)


การปฏิบัติตามกฎหมาย

(Legal Obligation)

(7)

การปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย และ / หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น 

  • การปฏิบัติตามคำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ เจ้าพนักงานของรัฐที่มีอำนาจ
  • กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายประกันภัย กฎหมายคุ้มครองแรงงาน กฎหมายประกันสังคม กฎหมายเงินทดแทน กฎหมายภาษีอากร กฎหมายล้มละลาย กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง กฎหมายคอมพิวเตอร์ 
  • กฎหมายอื่น ๆ ที่โปรโทลคอลจำเป็นต้องปฏิบัติตามทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงประกาศและระเบียบที่ออกตามกฎหมายดังกล่าวทั้งที่ใช้บังคับอยู่แล้วในขณะนี้ ที่จะแก้ไขเพิ่มเติม หรือที่จะมีขึ้นต่อไปในอนาคต

การปฏิบัติตามกฎหมาย

(Legal Obligation)

ในกรณีที่โปรโทลคอลได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ โปรโทลคอลจะดำเนินการกับข้อมูลดังกล่าวให้เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้ และจะเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่ท่านเคยได้ให้ไว้แก่โปรโทลคอล หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้โปรโทลคอล เก็บรวมรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งโปรโทลคอล เพื่อขอเพิกถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้

4. โปรโทลคอลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง

โปรโทลคอลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในประกาศฉบับนี้ หรือในบางกรณี ท่านอาจอยู่ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นอีกด้วย โดยที่ผู้รับข้อมูลของท่านอาจอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ

โดยโปรโทลคอลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ ดังต่อไปนี้

ประเภทผู้รับข้อมูลส่วนบุคคล

รายละเอียด

ผู้ให้บริการของโปรโทลคอล

โปรโทลคอลอาจใช้บริษัทอื่น คู่ค้า ตัวแทนของโปรโทลคอล ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ หรือผู้ให้บริการภายนอกเพื่อดำเนินงานแทนโปรโทลคอล หรือเพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของโปรโทลคอล ด้วยเหตุนี้ โปรโทลคอลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการของโปรโทลคอล ซึ่งรวมถึง

  • ผู้ให้บริการจัดงานประชุม (Event Organizer)
  • ผู้ให้บริการเพื่อสิทธิสวัสดิการพนักงาน (เช่น โรงพยาบาล บริษัทประกันภัย)
  • ผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรมพนักงาน
  • ผู้ให้บริการสถานที่พักอาศัย (เช่น โรงแรม)

พันธมิตรทางธุรกิจของโปรโทลคอล

โปรโทลคอลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้

  • คู่ค้าของโปรโทลคอล

บุคคลตามที่กฎหมายกำหนด

ในบางกรณี โปรโทลคอลมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจหรือมีสิทธิตามกฎหมาย และ / หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรวมถึง

  • หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย
  • หน่วยงานราชการ
  • บุคคลอื่นใดตามความจำเป็นในการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย หรือภาระหน้าที่ตามข้อบังคับ หรือเพื่อคุ้มครองสิทธิของโปรโทลคอล สิทธิของบุคคลภายนอก ซึ่งอาจรวมถึงการดำเนินกระบวนการทางกฎหมายใดๆ ที่เกี่ยวข้อง

ที่ปรึกษา / ผู้เชี่ยวชาญ

เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของโปรโทลคอล โปรโทลคอลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยัง

  • ผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอก
  • ที่ปรึกษาด้านงานทรัพยากรบุคคล
  • ที่ปรึกษาด้านการวิเคราะห์ข้อมูล
  • ที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ ตามแต่กรณี

บุคคลที่สามอื่นใด

โปรโทลคอลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สามอื่นใด เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในประกาศฉบับนี้ หรือตามที่ท่านร้องขอ ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง

  • ลูกค้าโปรโทลคอล
  • นายจ้างใหม่ของท่าน
  • สาธารณะ

5. โปรโทลคอลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศหรือไม่

โปรโทลคอลไม่มีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับข้อมูลอื่นในต่างประเทศ

6. โปรโทลคอลจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าใด

โปรโทลคอลจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นบุคลากรของโปรโทลคอล หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับโปรโทลคอล หรือตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศฉบับนี้ และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับโปรโทลคอล โปรโทลคอลจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นตามระยะเวลาที่จำเป็นตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น

6.1 ลูกค้า / คู่ค้า โปรโทลคอลจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านความสัมพันธ์อยู่กับโปรโทลคอล และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับโปรโทลคอล โปรโทลคอลจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นตามระยะเวลาที่จำเป็น ตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้

6.2 ผู้สมัครงาน ที่ไม่ได้รับการคัดเลือก โปรโทลคอลจะจัดเก็บข้อมูลของท่านเป็นระยะเวลา 3 เดือน

6.3 กรรมการ หรือพนักงานของโปรโทลคอล จัดเก็บไว้ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี

ทั้งนี้ โปรโทลคอลจะมีการดำเนินการในขั้นตอนที่เหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

7. โปรโทลคอลคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

โปรโทลคอลจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Safeguard) มาตรการเชิงบริหารจัดการ (Administrative Safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) เพื่อคงความลับ ความถูกต้องครบถ้วน สภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการเข้าถึง เก็บรวบรวม เปลี่ยนแปลง แก้ไข ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจ หรือโดยมิชอบ ทั้งนี้เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด

โปรโทลคอลได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยโปรโทลคอลได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ปลอดภัยและเหมาะสม การจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล การกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน สิทธิในการอนุญาตให้พนักงานที่ได้รับมอบหมายให้เข้าถึงข้อมูล และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจัดให้มีมาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการตรวจสอบเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการปฏิบัติตามนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากโปรโทลคอลมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่โปรโทลคอลกำหนดขึ้น

8. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลมีอะไรบ้าง

สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายของท่านที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่โปรโทลคอลกำหนดขึ้น 

8.1 สิทธิขอถอนความยินยอม : หากท่านได้ให้ความยินยอมให้โปรโทลคอลเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับโปรโทลคอล เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ โดยการถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้กระทำขึ้นก่อนการถอนความยินยอม

ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านในส่วนที่เกี่ยวข้องและจำเป็นกับการดำเนินการต่างๆ อาจส่งผลให้โปรโทลคอลไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาหรือให้สวัสดิการกับท่านได้ หรืออาจส่งผลให้กิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องถูกระงับ หรือหยุดลงชั่วคราว หรืออาจส่งผลกระทบต่อท่าน เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนถอนความยินยอม

8.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของโปรโทลคอล และขอให้โปรโทลคอลทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้โปรโทลคอลเปิดเผยว่าโปรโทลคอลได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร

8.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่โปรโทลคอลได้จัดทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้โปรโทลคอลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่โปรโทลคอลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่โปรโทลคอลในการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่โปรโทลคอลจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับโปรโทลคอล หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอ / ใบสมัครของท่านก่อนเข้าทำสัญญาหรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด

8.4 สิทธิขอคัดค้าน : ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของโปรโทลคอลหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน โปรโทลคอลจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่โปรโทลคอลสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมายหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี

8.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าโปรโทลคอลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

8.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่โปรโทลคอลอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่ โปรโทลคอล หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้โปรโทลคอลระงับการใช้แทน

8.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8.8 สิทธิร้องเรียน : ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 

การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่โปรโทลคอลอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากโปรโทลคอลปฏิเสธคำขอข้างต้น โปรโทลคอลจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย

สิทธิ

ระยะเวลาดำเนินการ*

สิทธิขอถอนความยินยอม

7 วันทำการ

สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล

30 วัน

สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล

สิทธิขอคัดค้าน

สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล

สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล

สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล

ทันที

9. โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 

การไม่ปฏิบัติตามนโยบายอาจมีผลเป็นความผิดและถูกลงโทษทางวินัยตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง (สำหรับผู้ปฏิบัติงานของโปรโทลคอล) หรือตามข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (สำหรับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ทั้งนี้ ตามแต่กรณีและความสัมพันธ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีต่อโปรโทลคอล และอาจได้รับโทษตามที่กำหนดโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมทั้ง กฎ ระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง

10. การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแล

ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพบว่า โปรโทลคอล มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมาย ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว โปรโทลคอล ขอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโปรดติดต่อมายังโปรโทลคอล เพื่อให้ โปรโทลคอล มีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนในโอกาสแรก

11. โปรโทลคอลจะแก้ไขเพิ่มเติม ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลง ประกาศฉบับนี้หรือไม่

โปรโทลคอลอาจพิจารณาทบทวนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติม ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลง ประกาศฉบับนี้เป็นครั้งคราวตามความเหมาะสมและเท่าที่กฎหมายอนุญาต ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงประกาศฉบับนี้ โปรโทลคอลจะดำเนินการประกาศประกาศฉบับปัจจุบันให้ท่านทราบผ่าน https://www.protollcall.com/

12. ท่านจะติดต่อโปรโทลคอล และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างไร

หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามประกาศฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อโปรโทลคอล และ / หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านช่องทางดังนี้

ช่องทางการติดต่อ

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ : บริษัท โปรโทลคอล แอดวานซ์ เซอร์วิส จำกัด ยูนิตเลขที่ B600 ชั้น 6 อาคารพร้อมพันธุ์ 2 เลขที่ 1 ซอยลาดพร้าว 3 ถ.ลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900