Home ❃ Personal Data Protection Notice
ประกาศแจ้งการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(Personal Data Protection Notice)
สำหรับลูกค้า คู่ค้า ผู้สมัครงานและผู้ปฏิบัติงานของ บริษัท โปรโทลคอล แอดวานซ์เซอร์วิส จำกัด
บริษัท โปรโทลคอล แอดวานซ์เซอร์วิส จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “โปรโทลคอล”) ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณและเคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกค้า คู่ค้า ผู้สมัครงานและผู้ปฏิบัติงาน (ซึ่งรวมเรียกว่า “ท่าน”) โปรโทลคอล จึงให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของ ลูกค้า คู่ค้า ผู้สมัครงานและผู้ปฏิบัติงานของโปรโทลคอล เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่โปรโทลคอลได้รับ จะถูกนำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์และเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โปรโทลคอลจึงได้กำหนดประกาศแจ้งการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“ประกาศ”) ฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิต่างๆ ของท่านตามกฎหมาย
1. ประกาศฉบับนี้ใช้กับใครบ้าง
1.1 ลูกค้า หมายถึง บุคคลที่จะซื้อหรือซื้อสินค้า และ/หรือรับบริการจากโปรโทลคอล หรือบุคคลอื่นที่ติดต่อสอบถามข้อมูลสินค้า และ/หรือบริการของโปรโทลคอล บุคคลที่รับทราบข้อมูลสินค้า และ/หรือบริการผ่านสื่อต่าง ๆ และบุคคลที่ได้รับการโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสินค้า และ/หรือบริการของโปรโทลคอล และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้อง หรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลที่เป็นลูกค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่าง โปรโทลคอล กับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น รวมทั้งบุคคลที่นิติบุคคลนั้นได้ให้ข้อมูลไว้แก่โปรโทลคอล ด้วย
1.2 คู่ค้า หมายถึง บุคคลที่จะขายหรือขายสินค้า และ/หรือบริการให้แก่โปรโทลคอล เช่น คู่สัญญา ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา เป็นต้น และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลซึ่งเป็นคู่ค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่างโปรโทลคอล กับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้ส่งสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น รวมทั้งบุคคลที่นิติบุคคลนั้นได้ให้ข้อมูลไว้แก่โปรโทลคอล ด้วย
1.3 ผู้สมัครงานและผู้ปฏิบัติงานของโปรโทลคอล ไม่ว่าท่านจะเป็น ผู้สมัครงาน ผู้ปฏิบัติงาน ของโปรโทลคอล รวมไปจนถึงบุคคลในครอบครัว ผู้รับผลประโยชน์จากสวัสดิการต่างๆ ผู้ติดต่อฉุกเฉิน บุคคลที่ท่านอ้างอิงผู้รับผลประโยชน์จากสวัสดิการต่างๆ ผู้ติดต่อฉุกเฉิน บุคคลที่ท่านอ้างอิงทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งโปรโทลคอลได้ทำการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการสมัครงาน การฝึกงาน หรือการจ้างงานของท่าน
2. ข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้างที่โปรโทลคอลเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผย
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม (แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม) ได้แก่
2.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่โปรโทลคอลโดยตรง จากช่องทางการติดต่อต่างๆ เช่น เว็บไซต์ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์ การประชุม สื่อสังคมออนไลน์ ไปรษณีย์ ข้อมูลจากใบสมัครงาน การสัมภาษณ์ การฝึกงาน หรือการจ้างงาน หรือ
2.1.2 ข้อมูลบนเว็บไซต์ของโปรโทลคอล ที่ได้รับผ่านคุกกี้หรือเทคโนโลยีอื่นใดที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน (รวมเรียกว่า “คุกกี้”)
2.1.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่โปรโทลคอลได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากท่านโดยตรง เช่น พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทนายหน้ารับสมัครงาน ที่ปรึกษา สมาคม และแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ
2.1.4 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่โปรโทลคอลเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผย เช่น
ประเภทของข้อมูล | ตัวอย่างข้อมูลที่โปรโทลคอลเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผย |
ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) | เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วันเดือนปี เกิด เพศ อายุ สัญชาติ ลายมือชื่อ ภาพถ่าย เป็นต้น |
ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) | เช่น ที่อยู่ สำเนาทะเบียนบ้าน เบอร์โทรศัพท์ เบอร์โทรสาร อีเมล ตำแหน่งที่อยู่ (Geolocation) ผู้ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บัญชีการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ LINE ID เป็นต้น |
ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) | เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร เงินเดือน ค่าจ้าง ผลตอบแทนอื่น การขึ้นเงินเดือน โบนัสประจำปี ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ข้อมูลการเอาประกันภัยกลุ่ม ข้อมูลการใช้สิทธิสวัสดิการอื่น ๆ ข้อมูลการเสียภาษี เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการศึกษาและทำงาน | เช่น ประวัติการศึกษา วุฒิการศึกษา ผลการศึกษา สถานศึกษา ประวัติการทำงาน การฝึกอบรม ความเชี่ยวชาญ และผลงานต่าง ๆ เป็นต้น |
ข้อมูลทางเทคนิค อุปกรณ์หรือเครื่องมือ | เช่น หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP address หรือ MAC address) หมายเลขประจำเครื่องโทรศัพท์มือถือ (International Mobile Equipment Identity: IMEI) คุกกี้ (Cookies ID) ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Audit Log) การใช้งานเว็บไซต์ |
ข้อมูลที่จำเป็นอื่น ๆ | เช่น สถานภาพการสมรส สถานภาพทางการสมรส สถานภาพครอบครัว จำนวนสมาชิกในครอบครัวและจำนวนบุตร ข้อมูลความสัมพันธ์ (เช่นบิดามารดา ผู้รับผลประโยชน์จากสวัสดิการต่างๆ ผู้ติดต่อฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง) เป็นต้น |
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน (Sensitive Personal Data)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ โดยโปรโทลคอลไม่มีเจตนาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากท่าน
หากแต่ในบางกรณี โปรโทลคอลอาจจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากท่านเพื่อพิจารณาการจ้างงาน การดำเนินการตามสัญญาที่โปรโทลคอลมีอยู่กับท่าน หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนที่โปรโทลคอลเก็บรวบรวม ได้แก่ ศาสนา ประวัติอาชญากรรม (เช่น ผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรที่ได้รับมาจากหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจ) ข้อมูลสุขภาพ (เช่น ผลการตรวจสุขภาพ ใบรับรองแพทย์ ประวัติการเข้ารับการฉีดวัคซีน) ข้อมูลชีวภาพ (Biometric) (เช่น ภาพถ่ายจำลองใบหน้า ลายนิ้วมือ) ทั้งนี้ โปรโทลคอลจะเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนต่อเมื่อโปรโทลคอลได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่โปรโทลคอลมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต โดยจะดำเนินการเป็นคราวๆ ไปเมื่อต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากท่าน
(ต่อไปในประกาศฉบับนี้หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจง จะเรียกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนข้างต้น รวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”)
2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามอื่นใด
หากท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามอื่นใด เช่น ข้อมูลสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลผู้รับผลประโยชน์จากสวัสดิการต่างๆ ข้อมูลผู้ติดต่อฉุกเฉิน และบุคคลที่ท่านอ้างอิง เป็นต้น ขอให้ท่านโปรดแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบเกี่ยวกับรายละเอียดตามประกาศฉบับนี้ และขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้นหากจำเป็น หรือกำหนดฐานทางกฎหมายอื่นเพื่อให้แน่ใจว่าโปรโทลคอลสามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามเหล่านี้ได้
3. โปรโทลคอลเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ใดบ้าง
โปรโทลคอลจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายของโปรโทลคอล ทั้งนี้ ฐานทางกฎหมายที่โปรโทลคอลอาจใช้อ้างอิงประกอบการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีดังต่อไปนี้ (1) ฐานสัญญา; (2) ฐานความยินยอม; (3) ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต; (4) ฐานปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย; (5) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย; และ / หรือฐานทางกฎหมายอื่นที่โปรโทลคอลสามารถอาศัยได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์บางประเภทดังต่อไปนี้อาจใช้บังคับกับท่าน โปรดพิจารณาลักษณะวัตถุประสงค์ตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านและโปรโทลคอล
3.1 กรณีที่ท่านเป็นลูกค้า โปรโทลคอลอาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังนี้
ข้อที่ | วัตถุประสงค์ | ฐานทางกฎหมาย |
(1) | เพื่อการพิจารณาอนุมัติคำขอซื้อสินค้าและหรือใช้บริการ รวมถึงกระบวนการตรวจสอบยืนยันตัวตน การตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจ การพิจารณาความเสี่ยงในการเข้าทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินการตามกระบวนการภายในต่าง ๆ ของ โปรโทลคอล เพื่อการทำสัญญา การปฏิบัติงานตามสัญญา การส่งสินค้า การให้บริการ รวมไปถึงการติดต่อประสานงาน การเรียกเก็บค่าใช้จ่าย การจัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น | การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
(2) | เพื่อประโยชน์ในการประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาสินค้า การให้บริการ และรายการส่งเสริมการขายต่าง ๆ ของ โปรโทลคอล รวมถึงเพื่อสำรวจความพึงพอใจเกี่ยวกับสินค้าและบริการของ โปรโทลคอล เพื่อให้เหมาะสมและตรงตามความต้องการของท่าน | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
(3) | เพื่อใช้เป็นข้อมูลและเอกสารประกอบการดำเนินงานใด ๆ กับธนาคาร สถาบันการเงิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร และหน่วยงานภายนอกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
3.2 กรณีที่ท่านเป็นคู่ค้า โปรโทลคอล อาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
ข้อที่ | วัตุประสงค์ | ฐานทางกฎหมาย |
(1) | เพื่อการดำเนินการตามกระบวนการต่าง ๆ ก่อนเข้าทำสัญญา เช่น
| การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis)
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
(2) | เพื่อความจำเป็นในการทำธุรกรรมระหว่างคู่ค้ากับ โปรโทลคอล เช่น
| การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis)
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
(3) | เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมระหว่างคู่ค้ากับ โปรโทลคอล เช่น กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร | การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
3.3 กรณีที่ท่านเป็นผู้สมัครงานหรือพนักงานของโปรโทลคอล โปรโทลคอล อาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
ข้อที่ | วัตุประสงค์ | ฐานทางกฎหมาย |
(1) | เก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน ที่โปรโทลคอลไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่น นอกเหนือจากการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งได้ วัตถุประสงค์ดังกล่าว ได้แก่
| การอาศัยความยินยอม (Consent Basis) |
(2) | การพิจารณาคัดเลือก และการจ้างงาน เช่น
| การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) |
(3) | การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล เช่น การจัดทำฐานข้อมูลพนักงานและประวัติพนักงาน เช่น
| การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) ประโยชน์สำคัญต่อชีวิต (Vital Interest) |
(4) | การจ่ายค่าจ้างหรือผลตอบแทนอื่น เช่น
| การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) |
(5) | การพัฒนาทักษะความสามารถ เช่น
| การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) |
(6) | การดำเนินงานอื่น ๆ ของโปรโทลคอล เช่น
| การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
(7) | การปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย และ / หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น
| การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
ในกรณีที่โปรโทลคอลได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ โปรโทลคอลจะดำเนินการกับข้อมูลดังกล่าวให้เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้ และจะเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่ท่านเคยได้ให้ไว้แก่โปรโทลคอล หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้โปรโทลคอล เก็บรวมรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งโปรโทลคอล เพื่อขอเพิกถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้
4. โปรโทลคอลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง
โปรโทลคอลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในประกาศฉบับนี้ หรือในบางกรณี ท่านอาจอยู่ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นอีกด้วย โดยที่ผู้รับข้อมูลของท่านอาจอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ
โดยโปรโทลคอลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ ดังต่อไปนี้
ประเภทผู้รับข้อมูลส่วนบุคคล | รายละเอียด |
ผู้ให้บริการของโปรโทลคอล | โปรโทลคอลอาจใช้บริษัทอื่น คู่ค้า ตัวแทนของโปรโทลคอล ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ หรือผู้ให้บริการภายนอกเพื่อดำเนินงานแทนโปรโทลคอล หรือเพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของโปรโทลคอล ด้วยเหตุนี้ โปรโทลคอลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการของโปรโทลคอล ซึ่งรวมถึง
|
พันธมิตรทางธุรกิจของโปรโทลคอล | โปรโทลคอลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้
|
บุคคลตามที่กฎหมายกำหนด | ในบางกรณี โปรโทลคอลมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจหรือมีสิทธิตามกฎหมาย และ / หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรวมถึง
|
ที่ปรึกษา / ผู้เชี่ยวชาญ | เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของโปรโทลคอล โปรโทลคอลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยัง
|
บุคคลที่สามอื่นใด | โปรโทลคอลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สามอื่นใด เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในประกาศฉบับนี้ หรือตามที่ท่านร้องขอ ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
|
5. โปรโทลคอลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศหรือไม่
โปรโทลคอลไม่มีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับข้อมูลอื่นในต่างประเทศ
6. โปรโทลคอลจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าใด
โปรโทลคอลจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นบุคลากรของโปรโทลคอล หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับโปรโทลคอล หรือตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศฉบับนี้ และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับโปรโทลคอล โปรโทลคอลจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นตามระยะเวลาที่จำเป็นตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น
6.1 ลูกค้า / คู่ค้า โปรโทลคอลจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านความสัมพันธ์อยู่กับโปรโทลคอล และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับโปรโทลคอล โปรโทลคอลจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นตามระยะเวลาที่จำเป็น ตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้
6.2 ผู้สมัครงาน ที่ไม่ได้รับการคัดเลือก โปรโทลคอลจะจัดเก็บข้อมูลของท่านเป็นระยะเวลา 3 เดือน
6.3 กรรมการ หรือพนักงานของโปรโทลคอล จัดเก็บไว้ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี
ทั้งนี้ โปรโทลคอลจะมีการดำเนินการในขั้นตอนที่เหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
7. โปรโทลคอลคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
โปรโทลคอลจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Safeguard) มาตรการเชิงบริหารจัดการ (Administrative Safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) เพื่อคงความลับ ความถูกต้องครบถ้วน สภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการเข้าถึง เก็บรวบรวม เปลี่ยนแปลง แก้ไข ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจ หรือโดยมิชอบ ทั้งนี้เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
โปรโทลคอลได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยโปรโทลคอลได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ปลอดภัยและเหมาะสม การจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล การกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน สิทธิในการอนุญาตให้พนักงานที่ได้รับมอบหมายให้เข้าถึงข้อมูล และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจัดให้มีมาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการตรวจสอบเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการปฏิบัติตามนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากโปรโทลคอลมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่โปรโทลคอลกำหนดขึ้น
8. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลมีอะไรบ้าง
สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายของท่านที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่โปรโทลคอลกำหนดขึ้น
8.1 สิทธิขอถอนความยินยอม : หากท่านได้ให้ความยินยอมให้โปรโทลคอลเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับโปรโทลคอล เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ โดยการถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้กระทำขึ้นก่อนการถอนความยินยอม
ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านในส่วนที่เกี่ยวข้องและจำเป็นกับการดำเนินการต่างๆ อาจส่งผลให้โปรโทลคอลไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาหรือให้สวัสดิการกับท่านได้ หรืออาจส่งผลให้กิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องถูกระงับ หรือหยุดลงชั่วคราว หรืออาจส่งผลกระทบต่อท่าน เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนถอนความยินยอม
8.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของโปรโทลคอล และขอให้โปรโทลคอลทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้โปรโทลคอลเปิดเผยว่าโปรโทลคอลได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
8.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่โปรโทลคอลได้จัดทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้โปรโทลคอลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่โปรโทลคอลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่โปรโทลคอลในการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่โปรโทลคอลจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับโปรโทลคอล หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอ / ใบสมัครของท่านก่อนเข้าทำสัญญาหรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
8.4 สิทธิขอคัดค้าน : ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของโปรโทลคอลหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน โปรโทลคอลจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่โปรโทลคอลสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมายหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
8.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าโปรโทลคอลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
8.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่โปรโทลคอลอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่ โปรโทลคอล หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้โปรโทลคอลระงับการใช้แทน
8.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
8.8 สิทธิร้องเรียน : ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่โปรโทลคอลอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากโปรโทลคอลปฏิเสธคำขอข้างต้น โปรโทลคอลจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย
สิทธิ | ระยะเวลาดำเนินการ* |
สิทธิขอถอนความยินยอม | 7 วันทำการ |
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล | 30 วัน |
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล | |
สิทธิขอคัดค้าน | |
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล | |
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล | |
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล | ทันที |
9. โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การไม่ปฏิบัติตามนโยบายอาจมีผลเป็นความผิดและถูกลงโทษทางวินัยตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง (สำหรับผู้ปฏิบัติงานของโปรโทลคอล) หรือตามข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (สำหรับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ทั้งนี้ ตามแต่กรณีและความสัมพันธ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีต่อโปรโทลคอล และอาจได้รับโทษตามที่กำหนดโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมทั้ง กฎ ระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง
10. การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแล
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพบว่า โปรโทลคอล มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมาย ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว โปรโทลคอล ขอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโปรดติดต่อมายังโปรโทลคอล เพื่อให้ โปรโทลคอล มีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนในโอกาสแรก
11. โปรโทลคอลจะแก้ไขเพิ่มเติม ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลง ประกาศฉบับนี้หรือไม่
โปรโทลคอลอาจพิจารณาทบทวนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติม ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลง ประกาศฉบับนี้เป็นครั้งคราวตามความเหมาะสมและเท่าที่กฎหมายอนุญาต ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงประกาศฉบับนี้ โปรโทลคอลจะดำเนินการประกาศประกาศฉบับปัจจุบันให้ท่านทราบผ่าน https://www.protollcall.com/
12. ท่านจะติดต่อโปรโทลคอล และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างไร
หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามประกาศฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อโปรโทลคอล และ / หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านช่องทางดังนี้
ช่องทางการติดต่อ
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ : บริษัท โปรโทลคอล แอดวานซ์ เซอร์วิส จำกัด ยูนิตเลขที่ B600 ชั้น 6 อาคารพร้อมพันธุ์ 2 เลขที่ 1 ซอยลาดพร้าว 3 ถ.ลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
Products